uno how to play จากตอน “เตรียมตัวลูกให้พร้อมเล่นเกมส์” ได้พูดถึงเกมส์ UNO ว่าเลือกเกมส์นี้เพราะกฏง่าย และมีอยู่ในบ้าน แต่ก็มีการ์ดหลายประเภท คือ การ์ดตัวเลข และการ์ดคำสั่ง ในการ์ดคำสั่งยังสามารถแยกได้เป็นคำสั่งแบบง่าย และคำสั่งแบบยาก เมื่อเราสามารถแยกประเภท ความยากง่ายของการ์ดแต่ละแบบออกมาได้แล้ว เราก็จับมันมารวมกันทีละส่วนๆ เพื่อให้เกมส์ค่อยๆ ไล่ระดับจากง่าย ไปหายาก
uno how to play การ์ดที่มีในเกมส์ 108 ใบ
- การ์ดตัวเลข 0-9 สีเหลือง แดง เขียว ฟ้า อย่างละ 19 ใบ uno how to play
- การ์ด Draw Two สีเหลือง แดง เขียว ฟ้า อย่างละ 2 ใบ
- การ์ด Skip สีเหลือง แดง เขียว ฟ้า อย่างละ 2 ใบ
- การ์ด Reverse สีเหลือง แดง เขียว ฟ้า อย่างละ 2 ใบ
- การ์ด Draw Four 4 ใบ
- การ์ด Wild 4 ใบ
เกมส์นี้มีอายุที่แนะนำคือ 7 ขวบขึ้นไป เล่นได้ 2-10 คน สำหรับปิ่นวัย 4 ขวบ ที่รู้จักสีและตัวเลขแล้ว แต่ยังบวกเลขไม่เป็น และงงทิศทวนเข็ม-ตามเข็มนาฬิกา ยังคิดแบบซับซ้อนไม่เป็น เกมส์ UNO ในระยะเริ่มต้นของปิ่นจึงเป็นแบบนี้
Level 1
- วิธีเล่น แจกการ์คนละ 5 ใบ (กฏปกติ 7 ใบ) สลับกันทิ้งการ์ดที่มีสีหรือตัวเลข เหมือนการ์ดใบบนสุดของกองทีละหนึ่งใบ จนกว่าจะมีคนหมดคนแรกและเป็นผู้ชนะ
- การ์ดที่ใช้ ตัวเลขทั้งหมด, Draw Two
- กติกา
- ถ้าไม่มีการ์ดลง ให้หยิบหนึ่งใบ ถ้าลงได้ให้ลงเลย
- หลังจั่วการ์ดจากคำสั่ง Draw Two ให้ลงการ์ดต่อได้เลย ถ้ามี (ถ้าไม่มี จั่วเพิ่ม 1 ใบ) (กฏปกติ หลังจั่วแล้วจะต้องข้ามตาไปเลย ห้ามลง)
หลังจากเล่นไปซักพัก ปิ่นจะเริ่มจับคู่ภาพเหมือนได้ดีขึ้น ทิ้งการ์ดสีเหมือน/เลขเหมือนได้ไวขึ้น เริ่มรู้จักและนับจำนวนจากการหยิบการ์ด 2 ใบจาก Draw Two เคารพกฏ กติกา เช่น การรอให้ถึงตาตัวเอง การหยิบการ์ดเพิ่มเมื่อได้ Draw Twoแม้จะทำให้เค้าชนะได้ช้าลง
Level 2
- วิธีเล่น แจกการ์คนละ 5 ใบ สลับกันทิ้งการ์ดที่มีสีหรือตัวเลข เหมือนการ์ดใบบนสุดของกอง จนกว่าจะมีคนหมดคนแรกและเป็นผู้ชนะ
- การ์ดที่ใช้ ตัวเลขทั้งหมด, Draw Two, Draw Four, Wild
- กติกา
- ถ้าเลขเหมือนกัน ลงได้หลายใบพร้อมกัน (สีเหมือนกัน ลงได้ 1 ใบ)
- ถ้าคำสั่งเหมือนกัน ลงได้หลายใบพร้อมกัน
- ถ้ามีการ์ดคำสั่งแบบเดียวกันในมือ สามารถลงทับได้ และไม่ต้องจั่วตามคำสั่ง
- ถ้าไม่มีการ์ดลง ให้หยิบหนึ่งใบ ถ้าลงได้ให้ลงเลย
- หลังจั่วการ์ดจากคำสั่ง ให้ลงการ์ดต่อได้เลย ถ้ามี (ถ้าไม่มี จั่วเพิ่ม 1 ใบ)
หมายเหตุ กฏปกติของ UNO แบบฝรั่งจะให้ลงการ์ดได้ทีละ 1 ใบ แต่แบบที่นิยมเล่นกันไทยมักให้ลงได้ทีละหลายๆ ใบ
พอขยับมา Level 2 แรกๆ ต้องคอยกระตุ้นให้ปิ่นดูว่ามีการ์ดเลขเหมือนกันมั้ย เพราะจะยังชินกับการลงทีละใบอยู่ แต่พอจำกฏใหม่ได้ เค้าจะเริ่มคิดวางแผนการเล่น ว่าถ้าวางการ์ดเลขเดียวกันหลายๆ ใบ แต่คนละสี ต้องเอาสีที่ตัวเองมีขึ้นบนสุด เริ่มนับจำนวนได้คล่องขึ้น เมื่อโดน Draw Two หรือ Draw Four 2 ใบ โดยสอนให้หยิบเป็นเซ็ต เช่น Draw Two 3 ใบ => หยิบ 2 ใบทั้งหมด 3 ชุด แต่นับ 1-2 3-4 5-6 ไม่ใช่ 1-2 1-2 1-2 เริ่มคิดแก้ไขปัญหา ว่าถ้าไม่มีสีที่ต้องลง จะใช้การ์ด Draw Four หรือ Wild แทนการหยิบการ์ดเพิ่ม เมื่อเล่นไปนานๆ ปิ่นเริ่มรู้จักเก็บการ์ดไว้ใช้ทีหลัง เป็นการวางแผนการเล่นล่วงหน้าแบบหนึ่ง
จาก Level 2 ก็จะมาถึงขั้นสุดท้าย
Level 3
- วิธีเล่น แจกการ์คนละ 5 ใบ สลับกันทิ้งการ์ดที่มีสีหรือตัวเลข เหมือนการ์ดใบบนสุดของกอง จนกว่าจะมีคนหมดคนแรกและเป็นผู้ชนะ
- การ์ดที่ใช้ ตัวเลขทั้งหมด, Draw Two, Draw Four, Wild, Skip, Reverse
- กติกา
- ถ้าเลขเหมือนกัน ลงได้หลายใบพร้อมกัน (สีเหมือนกัน ลงได้ 1 ใบ)
- ถ้าคำสั่งเหมือนกัน ลงได้หลายใบพร้อมกัน
- ถ้ามีการ์ดคำสั่งแบบเดียวกันในมือ สามารถลงทับได้ และไม่ต้องจั่วตามคำสั่ง
- ถ้าไม่มีการ์ดลง ให้หยิบหนึ่งใบ ถ้าลงได้ให้ลงเลย
ในเลเวลนี้ เพียงเพิ่มการ์ดควบคุมทิศทางคือ Skip และ Reverse มา แต่ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจพอสมควร เพราะเทิร์นจะกระโดดข้ามไปมา หรือย้อนกลับ ทำให้สับสนได้ง่าย จึงต้องแยกออกมาเป็นเลเวลต่างหาก โดยเน้นความเข้าใจเรื่องทิศทางในการเล่น เช่น ถ้าลงการ์ด Reverse ให้ทิศย้อนกลับ คนที่จะได้ลงคนถัดไปก็จะเปลี่ยนไป ตัวเค้าอาจไม่ได้ลงตามทิศเดิม หรือถ้าลง Skip เค้าจะถูกข้าม ไม่ได้เล่น ส่วนกฏที่ไม่ได้ใช้เลย คือ การพูด UNO เมื่อลงใบรองสุดท้าย และการนับแต้มเมื่อจบเกมส์ การนับแต้มนั้นยุ่งยากเกินไป ส่วนการพูด UNO ดูเป็นไปเพื่อการแกล้งกันมากกว่าจะให้ประโยชน์ใดๆ จึงไม่ใช้กฏทั้งสองนี้
วิธีการเล่น
- สุ่มลำดับในการเล่น
- สับการ์ดและแจกการ์ดให้กับผู้เล่นทุกคน คนละ 7 ใบ โดยการ์ดที่เหลือจะวางกองไว้เป็นการ์ดกองกลางในการจั่วนั่นเอง
- เปิดการ์ดกองกลางขึ้นมา 1 ใบ เป็นการ์ดเริ่มเล่น จากนั้นผู้เล่นคนแรกลงการ์ด และตามลำดับการเล่นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีผู้ชนะในเกม
- ผู้เล่นที่เหลือการ์ดเพียง 1 ใบจะต้องพูดว่า UNO!! หากผู้เล่นไม่พูดจะต้องถูกลงโทษโดนการจั่วการ์ดเพิ่มอีก 2 ใบ
- ผู้เล่นที่การ์ดในมือของตัวเองหมดก่อนจะถือเป็นผู้ชนะในเกม!!
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ แม้ว่าวิธีการเล่นจะดูยาว แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้วเล่นง่ายมาก ไม่ซับซ้อน แถมยังสนุกมาก ๆ ด้วย จะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัย เกมอูโน่!! ก็ยังคงเป็นตำนานเกมที่เล่นได้ทั้งเด็ก วัยรุ่นหรือผู้เล่นใหญ่บางคนก็ยังเล่นกันอยู่ 5555 เราไปดูกันดีกว่าว่าเกมอูโน่ที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ได้อะไรมากกว่าที่เราคิดอีกนะคะ
- ได้ความสนุกสนานในการเล่น ซึ่งแน่นอนว่าเกมทุกเกมมีความสนุกในตัวซ่อนเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครกันอยู่แล้ว และเกมอูโน่ก็เป็นหนึ่งเกมที่มีความสนุก เล่นไม่ยาก มีอุปกรณ์การเล่นแค่เพียงการ์ดแต่ก็ทำให้สนุกได้รอบวงเลยค่ะ ด้วยตัวการ์ดที่มีลูกเล่นหรือแอคชั่นพิเศษเข้าไป ทำให้เกมสามารถพลิกไปพลิกมา ไม่อาจคาดเดาได้ นั่นก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่งของเกมนี้
- ไหวพริบ ปฏิภาณ อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้ใช้การ์ดในการเล่นเพียงอย่างเดียว สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นต้องใช้ไหวพริบดี ๆ ก็คงจะเป็นการคาดเดาการ์ดของฝ่ายตรงข้าม และวางแผนการลงการ์ดของตนเองให้หมดก่อนเพื่อเป็นผู้ชนะในเกม
- มิตรภาพ เกมนี้จะขาดความสนุกไปหากไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อน ๆ เพราะเกมนี้เล่นคนเดียวคงไม่สนุกเป็นแน่ การที่มีเพื่อน ๆ หรือใครมานั่งเล่นด้วยกันก็สร้างรอยยิ้มและมิตรภาพให้แก่กันแน่นอน แม้บางครั้งอาจจะต้องฟาดฟันกันด้วยการ์ดเสียหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาในการเล่นด้วยกัน เห้อ ทำให้เราคิดถึงเพื่อนเก่า ๆ ในตอนที่เคยเล่นด้วยกันขึ้นมาเลย
โดยสรุป
การเล่นเกมส์นี้จะช่วยพัฒนาทักษะที่สำคัญหลายๆ ด้าน ดังนี้
- รู้จักตัวเลขและสี (Number and Color Recognition)
- จับคู่ภาพเหมือน (Matching skills)
- นับจำนวน (Counting skills)
- เคารพกฏ กติกา (Following the Rules)
- คิดวางแผนการเล่น (Strategic Thinking skills)
- คิดแก้ไขปัญหา (Problem Solving skills)
นอกจากนี้แล้ว การเล่นบอร์ดเกมส์ยังช่วยพัฒนะทักษะเล็กๆน้อยๆ อีกหลายอย่าง เช่น การใช้เวลาคุณภาพร่วมกันของครอบครัว การสื่อสารพูดคุยกันระหว่างเล่น ช่วยให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น การจัดการอารมณ์ของตัวเองเมื่อเกมส์ไม่เป็นไปในแบบที่ต้องการ หรือเมื่อเล่นแพ้คนอื่น และที่สำคัญที่สุดคือ ความสนุกสนาน! uno how to play